- ชื่ออังกฤษ : Jurassic World 2015
- ประเภทหนัง : Action, Adventure, Sci-Fi
- ผู้กำกับ : Colin Trevorrow
- นักแสดง : Chris Pratt, Judy Greer, Ty Simpkins
- วันที่เข้าฉาย : 11 มิถุนายน 2558
jurassic world เรื่องย่อ สิ้นสุดการรอคอยกว่า 14 ปี สำหรับภาพยนตร์แอคชั่นผจญภัยฟอร์มยักษ์ที่ทุกท่านรอคอย สำหรับ Jurassic World ภาคต่อของ Jurassic Park กับเรื่องราวในอีก 22 ปีต่อมา ภายหลังจากเหตุการณ์ใน Jurassic Park ภาคแรก (1993) บนเกาะอิสลา นูบลา ที่ถูกสร้างขึ้นและเปิดเป็นสวนสนุก เพื่อจัดแสดงไดโนเสาร์เต็มรูปแบบ ด้วยการใช้เทคโนโลยีตัดต่อพันธุกรรม และการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ไดโนเสาร์ให้มีจำนวนมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ให้พวกมันมีทั้งขนาดและความปราดเปรื่องที่น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม จนนำมาสู่หายนะครั้งใหม่ให้มนุษย์ต้องเอาชีวิตรอดอีกครั้ง อำนวยการสร้างโดย สตีเวน สปีลเบิร์ก นำแสดงโดย คริส แพรตต์, ไบรซ์ ดัลลาส ฮาวเวิร์ด, นิค โรบินสัน, ไท ซิมป์กินส์, เจก จอห์นสัน, อีร์ฟาน ข่าน และบีดี หว่อง ภาพยนตร์กำกับการแสดงโดย โคลิน เทรวอร์โรว์
ด้วยยอดการเข้าชมกว่า 30 ล้านวิว สำหรับการเปิดเพียง 2 วัน ของตัวอย่างภาพยนตร์ Jurassic World ภาคต่อจากไตรภาค Jurassic Park ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในยุค 90 ทำให้หนังเรื่องนี้ถูกจับตามองจากบรรดานักบรรพชีวินวิทยา ซึ่งเป็นผู้ศึกษาประวัติความเป็นมาของวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิตในยุคบรรพกาลเป็นอย่างมาก โดยใน Jurassic World ซึ่งถูกสร้างต่อจากต้นฉบับมานานกว่า 2 ทศวรรษนั้น ค่อนข้างถูกวิพากย์วิจารณ์ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่ถูกนำเสนอไม่ตรงกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งอาจจะเป็นด้วยเพราะพล็อตเรื่องที่เป็นการพูดถึงการดัดแปลงพันธุกรรมให้ไดโนเสาร์มีความเฉลียดฉลาดและน่าสนใจกว่าเดิม ทำให้รายละเอียดหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับไดโนเสาร์ถูกบิดเบือนไป ไม่ว่าจะเป็น…
“เวโลซีแรปเตอร์” ไดโนเสาร์กินเนื้อที่ฉลาดและว่องไวมาเป็นตัวดำเนินเรื่องหลักของ Jurassic World ที่ถูกนำเสนอในแง่ของสัตว์ที่เป็นภัยคุกคามและมีขนาดที่ใหญ่เกือบเท่ามนุษย์ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว แรปเตอร์ มีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าไก่ตัวหนึ่งเท่านั้น
“ไทแรนโนซอรัส” หรือ “ทีเร็กซ์“ ที่ในหนังภาคแรก ก็ถูกวิจารณ์อย่างมาก เมื่อจากหลักฐานทางฟอสซิลพบว่า ทีเร็กซ์ ในยุคจูราสสิค ไม่มีวันตัวใหญ่โตเหมือนในหนัง และมีความเร็วในการวิ่งสูงสุดแค่ 25 ไมล์ต่อชั่วโมง จึงไม่อาจวิ่งไล่ตามรถยนตร์ได้เหมือนที่ผู้สร้างถ่ายทอดในหนังแต่อย่างใด โดยใน Jurassic World 2015 นี้ สายพันธุ์ของทีเร็กซ์จะถูกปรับเปลี่ยนพันธุกรรมแบบลับๆ โดยมีชื่อใหม่ที่เรียกว่า “อินโดไมนัส เร็กซ์” ซึ่งมีทั้งความเร็วและความฉลาดที่มากขึ้นกว่าเดิม
“โมซาซอร์” กิ้งก่าทะเลดึกดําบรรพ์ ที่เชื่อว่าเป็นญาติใกล้ชิดกับงูในปัจจุบัน แต่ขนาดที่ใหญ่โตเท่ากับเครื่องบิน Boeing และมีความแตกต่างจากหลักฐานการค้นพบฟอสซิลซึ่งยืนยันว่า โมซาซอร์ มีขนาดความยาวที่สุดที่ 15 เมตรเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกวิจารณถึงเรื่องรายละเอีดที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และจะดีกว่าหากเป็นการถ่ายทอดไดโนเสาร์ให้ถูกต้องตามการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ภาพยนตร์มีความน่าเชื่อถือมากกว่าเป็นเพียงการถ่ายทอดเรื่องราวเพ้อฝัน แต่ในวงการวิทยาศาสตร์ก็ยังคงยกย่องให้ หนังต้นฉบับเมื่อปี 1993 ช่วยให้การศึกษาเกี่ยวกับที่มาของไดโนเสาร์ ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก
jurassic world เรื่องย่อ
jurassic world เรื่องย่อ เรื่องราวการผจญภัยสานต่อความระทึกขวัญต่อจากภาค Jurassic Park เมื่อปี 1993 หลังจากระยะเวลาผ่านไป 22 ปี สวนสนุกแห่งโลกจูราสสิคก็ได้กลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบยิ่งกว่าเดิมอีกครั้งในชื่อ “จูราสสิค เวิลด์ (Jurassic World)” บนเกาะนอกชายฝั่งประเทศคอสตาริกา ภายใต้ความดูแลของ Masrani Global Corporation ซึ่งหลังจากกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง พวกเขาก็พบว่ายอดการเข้าเที่ยวชมของนักท่องเที่ยวเป็นไปไม่สวยนัก
โครงการพัฒนาปรับปรุงพันธุกรรมเหล่าไดโนเสาร์จึงเกิดขึ้น เพื่อเรียกความน่าสนใจดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม จนก่อเกิดเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ที่ทั้งอันตรายและเฉลียวฉลาดมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น โมซาซอร์ ขนาดยักษ์ที่กระโดดงับปลาฉลามบนผืนน้ำขนาดใหญ่, ไทรเซอราท็อป ตัวจิ๋วผู้อ่อนโยน หรือแม้กระทั่ง อินโดไมนัส เร็กซ์ ที่เป็นการผสมพันธุ์ทางพันธุกรรมซึ่งปิดเป็นความลับ จนได้ทีเร็กซ์พันธุ์ใหม่ที่มีทั้งขนาดใหญ่โตกว่าและอันตรายกว่าเป็นเท่าตัว
แต่แล้วระหว่างการดำเนินกิจการที่กำลังเป็นไปได้สวย ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่แห่แหนกันมามากมาย สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อสิ่งที่สวนสนุกแห่งโลกจูราสสิคปกปิดไว้ ได้หลุดออกมาพร้อมกรงเล็บที่พร้อมขย้ำนกท่องเที่ยวและมนุษย์ทุกคนบนเกาะ ขณะเดียวกับที่ แซช และ เกรย์ สองพี่น้องหลานชายของ แคลร์ ผู้ดูแลหญิงของสวนสนุกแห่งนี้มาเยือน
นี่จึงไม่ใช่แค่การอพยพผู้คนออกจากเกาะที่เต็มไปด้วยเหล่าสัตว์ร้ายแห่งโลกจูราสสิค แต่ยังเป็นการหาทางหยุดยั้งและหาทางช่วยเหลือเด็กๆ ที่แคลร์จำเป็นต้งร่วมมือกับ โอเวน อดีตทหารผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ที่ทำงานที่ศูนย์วิจัยชายขอบของสวนสนุกแห่งนี้ ที่จะต้องงัดทั้งความรู้และไหวพริบ เพื่อต่อกรกับเหล่าไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ ที่ทั้งร้ายกาจและเฉลียวฉลาด โดยเฉพาะกับเจ้า “อินโดไมนัส เร็กซ์”
ความโกลาหลวุ่นวายของสวนสนุกจูราสสิคครั้งนี้จะจบลงอย่างไร? จะซ้ำรอยเดิมกับภาคก่อนๆ หรือไม่? ร่วมพิสูจน์ภาคต่อของภาพยนตร์ระดับสุดยอดตำนวนเรื่องนี้กันได้ ใน Jurassic World กันได้ทุกโรงภาพยนตร์ 11 มิถุนายนนี้!!
18 ความประทับของเดิม ที่ Jurassic World นำมาถ่ายทอดอีกครั้ง
หลากหลายความประทับใจที่เคยถูกกล่าวถึงใน Jurassic Park จะถูกนำกลับมาถ่ายทอดสู่สายตาผู้ชมใหม่อีกครั้งใน Jurassic World โดยการอำนวยการสร้างของ “สตีเวน สปีลเบิร์ก” ที่จะยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของโลกล้านปีให้เราได้สัมผัสกัน และนี่คือ 18 ความประทับใจที่ Jurassic World ยังคงรักษาไว้จากต้นฉบับเดิม…
1. วิธีการเดินทางสู่เกาะอิสลา นูบลา (Isla Nublar)
สำหรับวิธีการเดินทางมายังเกาะอิสลา นูบลา ใน Jurassic World นั้น ยังคงแฝงกลิ่นไอของลึกลับและชวนตื่นเต้นไว้เช่นเดียวกับในภาคที่เเล้วเช่นเดิม แม้จะมีการเปลี่ยนยานพาหนะขนส่ง จากการเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาเป็นการเดินทางในน้ำ โดยเรือข้ามฟาก Ferry แทน แต่ก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงการถูกตัดขาดจากโลกภายนอกให้ผู้ชมได้อารมณ์เช่นเดียวกับการดู Jurassic Park ที่คุ้นเคย
2. ประตูทางเข้าสู่อาณาจักรโลกล้านปี
หากมาถึง Jurassic Park แต่ไม่ได้ผ่านประตู ก็อาจถือได้ว่ายังมาไม่ถึงอาณาจักรโลกล้านปีก็ว่าได้ นี่จึงถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญอย่างหนึ่งในหนังเรื่องนี้ ดังนั้นใน Jurassic World จึงไม่ลืมที่จะมีฉากแสดงประตูทางเข้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญ และยังเพิ่มเติมรถราง ให้ดูมีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย
3. เด็กและสวนสนุก
แน่นอนว่า หากพูดถึง Jurassic Park สิ่งหนึ่งที่หลายคนมักนึกถึง ก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กและสวนสนุก ที่มักเป็นของคู่กันเสมอ การกลับมาครั้งนี้ของ Jurassic World ก็ยังคงอิงความสัมพันธ์ในแง่นี้ให้ผู้ชมได้ชวนย้อนวัยกัน ตลอดจนยังไม่ลืมที่จะแฝงแง่คิดสำหรับครอบครัวให้เราขบคิดกันตามเคยอีกด้วย
4. ความมหึมาของขนาดไดโนเสาร์
ถ้าพูดถึงไดโนเสาร์ นอกจากความน่ากลัวแล้ว ด้วยลักษณะใหญ่โตของมัน ก็เป็นจุดเด่นหนึ่งที่ไม่ว่าจะภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับไดโนเสาร์เรื่องใดก็ตาม ย่อมไม่ลืมที่จะนำมาถ่ายทอดสู่สายตาคนดู และในเวอร์ชั่นของ Jurassic World ก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับพล็อตเรื่องที่มีการปรับแต่งพันธุกรรมให้ใหญ่โตมากขึ้นกว่าเดิมด้วยแล้ว ยิ่งเป็นการรับประกันความตระการตาของไดโนเสาร์ที่เราจะได้เห็นจากหนังเรื่องนี้
5. การเที่ยวชมเหล่าไดโนเสาร์ท่ามกลางสายน้ำและป่าไม้
ธรรมชาติ สายน้ำ และผืนป่า ถือเป็นหัวใจหลักสำหรับการดำรงชีวิตของสัตว์ทุกชนิด แม้กระทั่งไดโนเสาร์เองก็ตาม แน่นอนว่า ความเป็นธรรมชาติ ยังคงไว้ให้เราได้อิ่มเองกันเช่นเดียวกับใน Jurassic Park เช่นเคย และอาจทำให้ทุกคนรู้สึกได้ใกล้ชิดมากขึ้น กับการพาเที่ยวชมโลกของไดโนเสาร์ด้วยการล่องเรือที่จะได้พบใน Jurassic World ที่กำลังจะมาถึงนี้
6. มนต์สเน่ห์ของกัลลิมิมัสบนทุ่งหญ้ากว้างใหญ่
หากจะพูดถึงความมีชีวิตชีวาที่สุดของภาพยนตร์ Jurassic Park แล้วนั้น คงต้องยกให้กับกองทัพของเหล่ากิลลิมัสที่พากันวิ่งไปมาบนที่ราบปกคลุมไปด้วยใบหญ้าเขียวชะอุ่ม และความมีชีวิตชีวานี้ก็ถูกนำมาถ่ายทอดใน Jurassic World อีกครั้ง
7. ผู้บรรยายกระบวนการวิทยาศาสตร์
หากใครยังจำ Dr. DNA การ์ตูนอนิเมชั่นที่มีหน้าที่บรรยายกระบวนวิทยาศาสตร์ต่างๆใน Jurassic Park กันได้ ในภาคของ Jurassic World จะมีการเปลี่ยนแปลงโดยให้ตัวละครหญิงที่มีชื่อ “Claire” ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในนักวิจัยเบื้องหลังการพัฒนาสายพันธุ์ไดโนเสาร์ทั้งหมด มาทำหน้าที่่บรรยายเรื่องราววิทยาศาตร์ต่างๆ แทน รับรองได้ว่าน่าดูน่าชมกว่ากันแน่นอน
8. ยุงในอำพัน
ถ้าพูดถึงไดโนเสาร์ หลังฐานชิ้นสำคัญที่บ่งชี้ถึงสิ่งมีชีวิตในโลกล้านปีได้ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ยุงในอำพัน หรือยางไม้ที่จับตัวแข็ง และมันก็จะยังคงกลับมาปรากฏในภาคของ Jurassic World ให้เราได้เชยชมกันอีกครั้ง
9. นักวิทยาศาสตร์กับไข่ไดโนเสาร์
น่าจะเป็นกิจกรรมเพียงไม่กี่อย่างของนักวิทยาศาสตร์ในเรื่อง Jurassic เลยก็ว่าได้ กับการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงไดโนเสาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Jurassic World ที่มีเนื้อเรื่องเน้นมาทางด้านนี้เป็นสำคัญ การปรากฏตัวของนักวิทยาศาสตร์เคียงคู่กับไข่ไดโนเสาร์จึงเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่คุณได้พบกันตามเคย
10. ความน่ากลัวของไดโนเสาร์ขนาดยักษ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคของ Jurassic Wolrld ที่มีพล็อตเรื่องว่าด้วยการพัฒนาสายพันธุ์ไดโนเสาร์ด้วยแล้ว ความน่ากลัวขนาดยักษ์ย่อมทวีมากกว่าภาคที่แล้วแน่นอน
11. “เหยื่อล่อ”
แค่เหยื่อล่อก็ไม่ธรรมดาแล้วสำหรับในภาคของ Jurassic World ที่หยิบเอาปลาฉลามมาเป็นเหยื่อล่อของเจ้ายักษ์กินเนื้อแห่งผืนน้ำอย่าง “Mosasaurus” ที่จะทำให้ “แพะ” เหยื่อล่อทีเร็กซ์ใน Jurassic Park กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับขากรรไกรขนาดมหึมาของเจ้า Mosasaurus ที่งับฉลามลงน้ำไปทั้งตัว สร้างความตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อยแน่นอน
12. กรงเล็บนักล่า
หากมนุษย์มีปืนติดตัว เหล่าสัตว์ร้ายแห่งโลกล้านปีก็มีเขี้ยวและกรงเล็บที่พร้อมจะขย้ำทุกสิ่งเป็นอาวุธติดตัว นี่จึงเป็นอีกเอกลักษณ์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงพลังและความแข็งแกร่งของไดโนเสาร์ที่ไม่ว่าจะในภาค Jurassic Park หรือ Jurassic World ไม่ลืมที่จะใส่ลงไป
13. การแกะรอยนักล่า
เป็นฉากที่ลุ้นระทึกและน่าตื่นเต้นฉากหนึ่งก็ว่าได้ สำหรับการสำรวจแกะรอยไดโนเสาร์นักล่าที่พร้อมจะฆ่าบรรดาเหล่านักสำรวจหรือผู้แกะรอยได้เสมอ และใน Jarussic World แน่นอนว่าทุกคนจะได้เห็นมันอีกครั้ง ในรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน พร้อมด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่จะทำให้การเดินทางสำรวจของพวกเขาน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้น
14. การเอาชีวิตรอดจากทีเร็กซ์ขนาดยักษ์
เท้าทีเร็กซ์ขนาดยักษ์กับฉากหลังที่เป็นการหลบหนีของตัวละคร ดูจะเป็นฉากที่ชวนติดตามมากที่สุดก็ว่าได้ เพราะไม่เพียงแค่แสดงถึงความตื่นเต้นที่ทุกคนจะได้รับ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความใหญ่ยักษ์ของฟอร์มหนังให้เราได้เห็นกันอีกด้วย
15. การอพยพผู้คน
เมื่อหายนะกำลังจะเกิดขึ้น คงหนีไม่พ้นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าว และหากคุณกำลังคาดหวังถึงกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ขอบอกว่าอาจต้องผิดหวังสักหน่อย เพราะใน Jurassic World นั้น ส่ง “Owen”มาจัดการแค่คนเดียวก็อยู่แล้ว
16. การหลบซ่อนของตัวละครเด็ก
ฉากที่เร้าอารมณ์และลุ้นระทึกมากที่สุดฉากหนึ่งใน Jurassic Park คงหนีไม่พ้นฉากชิงไหวชิงพริบระหว่างไดโนเสาร์นักล่าและตัวละครเด็ก แน่นอนว่าหากใครหลายคนเคยประทับใจกับฉากนี้มาแล้ว ใน Jurassic World อรรถรสเดียวกันนี้จะกลับมาสร้างความตื่นเต้นให้คุณแน่นอน
17. ความแข็งแกร่งของตัวละครหญิง
เป็นนักแสดงหญิงในเรื่อง Jurassic Park ต้องอดทน สวย ผมสั้น เป็นลอนอย่างเดียวคงไม่ได้ ความแกร่งของเธอถือเป็นสิ่งสำคัญ และแน่นอนว่าในภาคของ Jurassic World ก็ถอดแบบบุคลิกเดียวกันมาได้อย่างคล้ายคลึงมากทีเดียว
18. ความฉลาดและการโจมตีที่รวดเร็วของแรปเตอร์
แค่เห็นภาพ เชื่อว่าหลายคนก็อาจได้ยินเสียงของเจ้าแรปเตอร์จอมเจ้าเล่ห์กันแล้ว แต่สำหรับในภาค Jurassic World นั้น บทบาทไดโนเสาร์จอมวายร้ายแสนเจ้าเล่ห์นี้ อาจแตกต่างออกไปจากที่หลายคนเคยสัมผัสมาจากในภาคของ Jurassic Park เมื่อในภาคใหม่นี้ มีการดัดแปลงตัดต่อพันธุกรรมสู่ไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อว่า Diabolus Rex หรือ D-Rex จากการผสมกันของยีนส์ T-rex, Raptor, ปลา Cuttle Fish และ งู ที่รับรองได้ว่าจะทำให้แรปเตอร์ที่ทุกคนรู้จัก ชิดซ้ายไปเลย นอกจากนี้ยังมีข่าวลือที่พูดถึงอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นมาเพื่อใช้กับเจ้าพวกแรปเตอร์ในภาคนี้ด้วย อาทิเช่น มอร์เตอร์ไซที่สามารถส่งเสียงออกมาในคลื่นความถี่เดียวกับการได้ยินของเหล่าบรรดาฝูงแรปเตอร์ ที่จะสามารถหลอกให้มันเชื่อว่ามนุษย์อยู่ฝูงเดียวกับมันได้ เอาเป็นว่าฟังหูไว้หู และคงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าข่าวจริงหรือมั่วนิ่ม jurassic world เรื่องย่อ