10 อันดับหนังดีที่สุดในโลก ทำเงินสูงสุดตลอดกาล
10 อันดับหนังดีที่สุดในโลก ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล และเป็นภาพยนตร์เรื่องโปรดในดวงใจของใครหลายคน ปัจจัยที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งได้รับความนิยม ดึงดูดผู้ชม ไปจนถึงสามารถทำรายได้สูงสุดนั้น มีตั้งแต่ประเภทของภาพยนตร์ เนื้อหา พล็อตเรื่อง การแสดง ไปจนถึงการถ่ายทำ วันนี้เราจึงสรุปรายชื่อ 10 อันดับ หนังน่าดู ที่สามารถทำรายได้สูงสุดในบ็อกซ์ออฟฟิศมาให้ทุกคนได้ชมกัน ภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณคือหนึ่งในภาพยนตร์ 10 อันดับนี้หรือไม่ ตามไปดูพร้อมกันเลย (หนังน่าดูทำเงินสูงสุด)
10 อันดับหนังดีที่สุดในโลก
- Avatar (2009) 10 อันดับหนังดีที่สุดในโลก
- Avengers: Endgame (2019)
- Titanic (1997)
- Star Wars: Episode VII – The Force Awakens (2015)
- Avengers: Infinity War (2018)
- Spider-Man: No Way Home (2021)
- Jurassic World (2015)
- The Lion King (2019)
- The Avengers (2012)
- Furious 7 (2015)
Avatar (2009)
avatar season 2 ยอดรวมบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก: 2.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยประมาณ)
กำกับและเขียนบทโดยเจมส์ คาเมรอน เจ้าของรางวัลออสการ์ ภาพยนตร์ไซไฟแฟนตาซีเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล เรื่องราวของ Jake Sully (Sam Worthington) อดีตนาวิกโยธินผู้เป็นอัมพาตครึ่งซีก ซึ่งร่วมภารกิจในการเดินทางไปยังดาวเคราะห์นอกระบบที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตนอกโลก ในระหว่างที่เขาเป็น ‘อวตาร’ ซึ่งเป็นการนำจิตใจของมนุษย์ไปอยู่ในร่างของมนุษย์ต่างดาว เขาตกหลุมรักกับ Neytiri (Zoe Saldana) ผู้หญิงต่างดาว จึงทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามกับภารกิจนี้ และหาทางปกป้องชนพื้นเมืองจากมนุษย์โลก
Avengers: Endgame (2019)
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก: 2.80 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยประมาณ)
Avengers: Endgame จะเป็นตอนจบของภาพยนตร์ 22 เรื่องใน Infinity Saga (2008-2019) ของ Marvel Cinematic Universe ในภาคที่แล้ว Thanos (Josh Brolin) ใช้พลังในทางที่ผิดเพื่อทำลายโลกและจักรวาล จนทำให้ Avengers: Endgame เหล่าอเวนเจอร์สต้องมารวมตัวกันเพื่อแก้ไขความเสียหายที่ธานอสสร้างขึ้น เพื่อต่อสู้กับหนึ่งในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลกับธานอส Iron Man (Robert Downey Jr. ), Thor (Chris Hemsworth), Black Widow (Scarlett Johansson), Captain America (Chris Evans), Spider-Man (Tom Holland) และ Hulk (Mark Ruffalo) เข้าร่วมกองกำลังร่วมกับพันธมิตรอย่าง Ant Man (Paul Rudd), Doctor Strange (Benedict Cumberbatch), Black Panther (late Chadwick Boseman) และ Captain Marvel (Brie Larson)
Titanic (1997)
ไททานิค ประวัติ ยอดรวมบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก: 2.20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยประมาณ)
ผลงานชิ้นเอกอีกชิ้นของ Cameron สร้างขึ้นจากเรื่องเล่าของ Rose DeWitt Bukater ผู้รอดชีวิตจากเรือไททานิค และร่วมแบ่งปันประสบการณ์บนเรือ R.M.S Titanic เมื่อวันที่ 10 เมษายน 1912 ภาพยนตร์ Titanic คือเรื่องราวของ Rose (Kate Winslet) วัย 19 ปี ที่ออกเดินทางร่วมกับแม่ คู่หมั้น และชนชั้นสูงมากมาย ก่อนที่เธอจะได้พบกับศิลปินพเนจรชื่อ Jack Dawson (Leonardo DiCaprio) บนเรือไททานิค เรือสำราญสุดหรูที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเรือที่ไม่มีวันจม ตลอดการเดินทางของพวกเขา Rose ได้ใกล้ชิดกับ Jack และเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ในที่สุดพวกเขาก็ตกหลุมรักกัน แต่พวกเขากลับต้องเจอโศกนาฏกรรม เมื่อเรือไททานิคชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ จนทำให้เรือจมสู่ท้องทะเลในที่สุด โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ทุนในการสร้างประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และได้รับการจารึกชื่อไว้ในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
Star Wars: Episode VII – The Force Awakens (2015)
star wars: episode vii ยอดรวมบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก: 2.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยประมาณ)
ภาพยนตร์สุดอมตะ ในภาคใหม่นี้คือเรื่องราวของ Rey (Daisy Ridley) คนเก็บขยะในทะเลทราย และ Finn (John Boyega) สตอร์มทรูปเปอร์ ผู้ร่วมมือกับสมาชิกกลุ่มต่อต้านเพื่อฟื้นฟูสันติภาพ ออกตามหา Luke Skywalker (Mark Hamill) อาจารย์เจไดในตำนาน และรวมตัวกันเพื่อป้องกันภัยคุกคามจาก Kylo Ren หลานชายของ Darth Vader กำกับการแสดงโดย J.J. Abrams พร้อมนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง Harrison Ford รับบทเป็น Han Solo, Carrie Fisher รับบทเป็น Princess Leia และ Adam Driver รับบทเป็น Kylo Ren นับตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องแรกออกฉายในปี 1977 Star Wars: Episode IV—A New Hope (แก้ไขเพิ่มเติมจากชื่อดั้งเดิมของ Star Wars) ก็มีภาพยนตร์ถึง 12 เรื่อง ในแฟรนไชส์นี้ที่เริ่มเข้าฉายตามมา
Avengers: Infinity War (2018)
ยอดรวมบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก: 2.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยประมาณ)
ภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งของ Marvel ที่ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศ Avengers: Infinity War รวบรวมฮีโร่อย่าง Iron Man, Thor, Hulk, Captain America, Black Widow, Hawkeye (Jeremy Renner) และ Spider-Man เพื่อเอาชนะศัตรูตัวฉกาจของพวกเขา นั่นก็คือ ธานอส ผู้มุ่งมั่นที่จะรวบรวมอินฟินิตี้สโตนทั้งหก เพื่อบรรลุเป้าหมายที่บิดเบี้ยวของเขา ชะตากรรมของโลกอยู่ในมือของเหล่าอเวนเจอร์ส ที่จะต้องหยุดแผนการชั่วร้ายนี้ให้ได้
Spider-Man: No Way Home (2021)
spider man no way home เรื่องย่อ ยอดรวมบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก: 1.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยประมาณ)
เมื่อ Peter Parker (Tom Holland) ถูกเปิดเผยว่าเป็น Spider-Man จึงขอให้ Doctor Strange ช่วยรักษาความลับนั้นด้วยการทำพิธีกรรมลึกลับ จึงต้องเผชิญหน้ากับวายร้ายจากภาพยนตร์ Spider-Man เรื่องอื่น ๆ เช่น Dr. Otto Octavius/Doc Ock (Alfred Molina), Max Dillon/Electro (Jamie Foxx) และ Norman Osborn/Green Goblin (Willem Dafoe)
Jurassic World (2015)
jurassic world เรื่องย่อ รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก: 1.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยประมาณ)
ภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟภาคใหม่ ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปกับสวนสนุกไดโนเสาร์ ที่จัดแสดงไดโนเสาร์ลูกผสมที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม อย่างเช่น Indominus Rex ที่มีความดุร้ายและฉลาด จนเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ไดโนเสาร์หนีออกจากที่กักกัน จึงทำให้เกิดเหตุวุ่นวายและอันตรายถึงชีวิต Owen Grady (Chris Pratt) เทรนเนอร์ไดโนเสาร์และผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของอุทยาน และ Claire Dearing (Bryce Dallas Howard) จึงต้องร่วมกันปกป้องนักท่องเที่ยวจากไดโนเสาร์ที่ดุร้าย Jurassic World กำกับโดย Colin Trevorrow โดย Hollywood Reporter รายงานว่า T-Rex ที่ปรากฏในภาพยนตร์ภาคนี้ตั้งใจออกแบบให้เหมือนกับ T-Rex ที่ปรากฏใน Jurassic Park ภาคดั้งเดิม (ค.ศ.1993)
The Lion King (2019)
the lion king ยอดรวมบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก: 1.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยประมาณ)
The Lion King (2019) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นใหม่จากภาพยนตร์ต้นฉบับในชื่อเดียวกันที่ออกฉายในปี ค.ศ.1994 โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาผู้ชมไปชมเรื่องราวของ Simba (พากย์เสียงโดย Donald Glover) สิงโตหนุ่มแห่งทุ่งสะวันนาแอฟริกัน ผู้ซึ่งเติบโตไปเป็นสิงโตเจ้าป่าในอนาคต แต่กลับถูก Scar (พากย์เสียงโดย Chiwetel Ejiofor) ลุงของเขา วางแผนยึดครองอาณาจักร จนทำให้ Simba ต้องหลบหนี และหาทางนำดินแดนอันสงบสุขกลับคืนมา
The Avengers (2012)
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก: 1.519 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยประมาณ)
เรื่องราวของ Iron Man, Hulk, Captain America, Thor, Hawkeye และ Black Widow ที่รวมตัวกันเป็นครั้งแรกในฐานะอเวนเจอร์ส เพื่อป้องกันไม่ให้ Loki (Tom Hiddleston) และกองทัพเอเลี่ยนของเขาบุกรุกโลก เมื่อศัตรูที่ไม่คาดคิดได้คุกคามความมั่นคงและความปลอดภัยของโลกใบนี้ นิค ฟิวรี่ ผู้อำนวยการหน่วยรักษาความสงบและสันติระหว่างประเทศหรือที่รู้จักกันในชื่อ หน่วยชีลด์ จึงต้องรวมพลเหล่าซูเปอร์ฮีโร่เพื่อที่จะมาปกป้องโลกให้พ้นจากหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น การรวมตัวครั้งสำคัญของสุดยอดวีรบุรุษได้เริ่มต้นขึ้น โดย นิค สามารถรวบรวมได้ทั้ง โทนี่ สตาร์ค หรือ ไอรอน แมน, สตีฟ โรเจอร์ส หรือ กัปตัน อเมริกา, คลินต์ บาร์ตัน หรือ ฮอร์คอาย, บรูซ แบนเนอร์ หรือ ฮัลค์, นาตาชา โรมานอฟ หรือ แบล็ค วิโดว์ และ ธอร์ มาร่วมเป็นหนึ่งทีมเฉพาะกิจที่ยิ่งใหญ่ เพื่อยับยั้งเหล่าร้ายที่มี โลกิ เทพผู้น้องของ ธอร์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
Furious 7 (2015)
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก: 1.515 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยประมาณ)
ในภาคนี้ Dominic Toretto (Vin Diesel) และ Brian O’Conner (Paul Walker) หวังว่าจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และแยกย้ายกันไป หลังจากที่สามารถเอาชนะ Owen Shaw (Luke Evans) ผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศ ในขณะที่ Deckard Shaw (Jason Statham) พี่ชายของ Owen ให้คำมั่นว่าจะหาทางล้างแค้นให้พี่ชายของตน เรื่องราวใน Fast & Furious 7 เกิดขึ้นมากกว่าหนึ่งปีหลังจากที่ลูกทีมของดอม (ดีเซล) และไบรอัน (วอล์คเกอร์) ได้รับการอภัยโทษให้กลับอเมริกาได้ เราได้พบว่าพวกเขาได้ปรับตัวมาใช้ชีวิตถูกกฎหมาย แต่คำว่าบ้านของพวกเขากลับเป็นอะไรที่เกินจริง ดอมพยายามจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเล็ตตี้ (โรดริเกซ) ในขณะที่ไบรอันเองก็พยายามจะปรับตัวให้เข้ากับชีวิตย่านชานเมืองกับไมอา (บรูว์สเตอร์) และลูกชายของพวกเขา ส่วนเทจ (บริดเจส) และโรมัน (กิ๊บสัน) ก็เฉลิมฉลองอิสรภาพของพวกเขาด้วยการใช้ชีวิตตามความฝันของหนุ่มเพลย์บอย อย่างไรก็ดี สิ่งที่พวกเขายังไม่รู้ก็คืออันตรายกำลังคืบคลานเข้าหาพวกเขาในร่างของมือสังหารภารกิจลับเลือดเย็นชาวอังกฤษ ที่มีบัญชีแค้นต้องสะสาง หลังจากที่เริ่มต้นศักราชแห่งความหวาดสะพรึงด้วยการสังหารโหดฮัน (ซุง คัง) ในโตเกียวและความพยายามลอบสังหารฮ็อบส์ (จอห์นสัน) ในแอลเอ เด็คการ์ด ชอว์ (สเตแธม) ก็เริ่มลงมือตามล่าผู้ที่กำจัดโอเวน (ลุค อีวานส์) น้องชายของเขา ระหว่างภารกิจสุดท้ายของพวกเขา 10 อันดับหนังดีที่สุดในโลก
